แหวนเพชร หมื่นเม็ด ทำสถิติแหวนที่มีเพชรมากสุดในโลก

แหวนเพชร หมื่นเม็ด ทำสถิติแหวนที่มีเพชรมากสุดในโลก

บริษัทในประเทศอินเดียได้ทำการทุบสถิติ แหวนที่มีเพชรมากสุดในโลก ด้วยการออกแบบ แหวนเพชร ที่มีจำนวนเพชรกว่า หมื่นเม็ด เมื่อวันที่ 4 มกราคม สำนักข่าว CNN รายงานว่า กินเนสส์บุ๊ก ได้มอบสถิติให้แหวนแห่งความรุ่งเรือง หรือ แมริโกลด์ จากบริษัท เรนานี บริษัทเครื่องประดับในประเทศอินเดีย ให้กลายเป็นแหวนที่จำนวนเพชรมากที่สุดในวงเดียว

แหวนดังกล่าวมีเพชร 38.08 การัตจำนวน 12,638 เม็ด โดยแหวนมีรูปทรงเป็นดอกไม้ที่หรูหรา และมีน้ำหนักๆมากกว่า 165 กรัมเพียงเล็กน้อย

สถิติก่อนหน้านี้อยู่ที่ 7,801 เม็ดต่อหนึ่งวัน เป็นแหวนที่ถูกออกแบบโดยบริษทในประเทศอินเดียเช่นเดียวกัน โดยแหวงวงดังกล่าวได้ทำลายสถิติในปี 2561 ที่ผ่านมา โดยนาย ฮาชิท บาร์ชัล ผู้ก่อตั้งบริษัทเรนานี และ เป็นผู้ออกแบบได้ให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่เขาได้ออกแบบแหวนวงใหม่นี้ขึ้น เพราะเขาเกิดแรงบันดาลใจ เมื่อเห็นสถิติที่ถูกทำลายลงในปี 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งเขากล่าวว่าเขาใช้เวลา 2 ปีก่อนที่การออกแบบจะเสร็จสิ้น

สื่อต่างประเทศรายงานว่า แกนนำม็อบฮ่องกง และ อดีตนักการเมือง กว่า 50 คน ถูกจับ เมื่อช่วงเช้าของวันพุธ ซึ่งถือเป็นการจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อวันที่ 6 มกราคม สำนักข่าว CNN รายงาน อดีตนักการเมืองและแกนนำต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยราวๆ 50 คนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเมื่อช่วงเช้าของวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งการจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้ กฎหมายความมั่นคงที่ได้รับการอนุมัติเมื่อช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊กของ พรรคประชาธิปไตยระบุว่า ผู้ถูกจับกุมทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการจัดการเลือกตั้งขั้นต้น เมื่อช่วงวันที่ 11 กรกฎาคม ปีที่ผ่านมา เพื่อคัดตัวแทนไปสู้ศึกเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติในเดือนกันยายน ซึ่งการเลือกตั้งในครั้งนี้ถือเป็นการละเมิดกฏหมายความมั่นคง

อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งถูกเลื่อนออกไป ซึ่งรัฐบาลได้ให้เหตุผลว่าทางการกังวลถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าผู้สมัครหลายคนถูกปรับให้หมดสิทธิ์ลงเลือกตั้งอีกด้วย

ขณะเดียวกันแอคเคาต์ทวิตเตอร์ของ โจชัว หว่อง หนึ่งในแกนนำม็อบร่มเหลือง ที่ขณะนี้ถูกจับกุมได้โพสต์ข้อความรายงานว่า บ้านของนาย โจชัว หว่อง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกค้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เนื่องจากนาย โจชัว หว่อง เข้าร่วมการเลือกตั้งขั้นต้นเมื่อปีที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน

ศาล ปากีสถาน สั่งยกเลิกการ ทดสอบพรหมจรรย์ กับเหยื่อที่ถูกข่มขืน โดยระบุว่าเป็นการทดสอบที่ไม่ได้อิงหลักวิทยาศาสตร์ เมื่อวันที่ 5 มกราคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า ศาลในรัฐปัญจาบ ประเทศปากีสถานได้สั่งยกเลิกการ ทดสอบพรหมจรรย์ กับเหยื่อที่ถูกข่มขืน หลังจากที่ศาลกล่าวว่าวิธีการทดสอบพรหมจรรย์ เป็นวิธีที่น่าอับอาย และ ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชี้ให้เห็นว่าวิธีดังกล่าวสามารถใช้ได้จริง

โดยการตัดสินครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจากที่กลุ่มผู้เรียกร้องได้ยื่นเรื่องต่อศาล โดยให้เหตุผลว่าเป็นการทดลองที่ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานบนหลักวิทยาศาสตร์

อย่างไรก็ตามการยกเลิกในครั้งนี้ใช้กับเฉพาะรัฐปัญจาบเท่านั้น อย่างไรก็ดีศาลสูงในพื้นที่อื่นๆกำลังพิจารณากำลัง การยกเลิกมาตรการดังกล่าว ด้าน ทนาย ที่เป็นตัวแทนของกลุ่มผู้เรียกร้องได้แสดงความคาดหวังว่า รัฐบาลจะเห็นว่าจะเข้าใจถึงข้อเท็จจริงของการตรวจสอบดังกล่าว และหวังว่าจะได้โบกมือบอกลาวิธีการตรวจสอบเช่นนี้

การทดสอบพรหมจรรย์คือการตรวจสอบอวัยวะเพศของเหยื่อที่ถูกข่มขืน เพื่อยืนยันว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศจริงหรือไม่ ซึ่งองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ระบุว่าการทดสอบในครั้งนี้ไม่ได้รับการรับรองในด้านวิทยาศาสตร์ และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายแรง

ช็อก! เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์โปรตุเกสตาย หลังฉีดวัคซีนโควิด ยังไม่ยืนยันสาเหตุความเชื่อมโยง

เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในประเทศโปรตุเกส ตาย ปริศนา หลังจากที่เธอเพิ่มรับการฉีด วัคซีนโควิด ได้ 48 ชั่วโมง คาดรู้ผลเร็ว ๆ นี้ ยังไม่สรุปการเสียชีวิตเกี่ยวเนื่องกับวัคซีนหรือไม่

เมื่อวันที่ 5 มกราคม สำนักข่าว แฟรนซ์ 24 รายงานว่า นาง โซเนีย อาเซเวโด เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หญิง ชาวโปตุเกส วัย 41 ปี เสียชีวิตปริศนา เมื่อวันปีใหม่ที่ผ่านมา หรือ 48 ชั่วโมงหลังจากที่เธอเพิ่งได้รับวัคซีนไฟเซอร์ วัคซีนต้านโควิด

โดยแม่ของผู้ตายได้ให้สัมภาษณ์ นางอาเซเวโด ไม่ได้แสดงอาการไม่พึงประสงค์ หลังจากรับวัคซีนต้านโควิด-19 ซึ่งแม่ผู้ตายกล่าวว่าเธออยากทราบถึงสาเหตุที่ทำให้ลูกสาวของเธอเสียชีวิต ด้านเจ้าหน้าที่ฉีดวัคซีนที่ยืนยันแบบเดียวกัน

ขณะที่ทางการโปรตุเกสได้ออกมาแสดงความเสียใจกับการเสียของนาง อาเซเวโด พร้อมทั้งยืนยันว่ากำลังชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตอยู่ คาดว่าจะทราบพลในวันพรุ่งนี้

แอนเดอร์สัน เล่าอีกว่า เฮิร์ด กล่าวว่า เดปป์ ทำร้ายร่างกายเธอ และเธอเคยเข้าพบเธอ โดยที่มีรอยพกช้ำที่ใบหน้า ขณะที่ตัวของภรรยานั้น ก็เคยใช้ความรุนแรงกับสามี เพื่อหยุดยั้งไม่ให้เขาเดินออกจากห้องหากทั้งสองฝ่ายมีปากเสียงกัน ซึ่งเธอบรรยายว่า เฮิร์ด เลือกจะใช้ความรุนแรงบ่อยครั้ง หาก เดปป์ เลือกจะเป็นฝ่ายเดินหนีจากการโต้แย้ง

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป